ถ้าคดีเดิมยื่นฟ้องที่ศาลจังหวัด ซึ่งมีผู้พิพากษาคนเดียวพิจารณาพิพากษา แต่ในคดีร้องขัดทรัพย์มีทุนทรัพย์เดินกว่า 300, 000 บาท กรณีดังกล่าวต้องมีผู้พิพากษาที่พิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีครบองค์คณะ 7. เมื่อมีการร้องขัดทรัพย์ - เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องงดการขายทอดตลาด หรือ จำหน่ายทรัพย์สินระหว่างรอคำวินิจฉัย 8. เมื่อมีการยื่นคำร้องขัดทรัพย์ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจยื่นคำร้องขอให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางเงินประกันต่อศาล 8. คำสั่งให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางเงินประกันเป็นที่สุด 8. ผลของการไม่วางเงินประกันตามที่ศาลสั่ง ศาลมีอำนาจสั่งจำหน่ายคดีได้ (ฏ. 2648/2547)
คำพิพากษาฎีกาที่น่าสนใจเรื่องร้องขัดทรัพย์ มาตรา 288 1. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2555 ป. วิ. พ. มาตรา 288 ผู้ร้องกล่าวในคำร้องว่า ผู้ร้องปลูกสร้างบ้านเลขที่ 7/1 บนที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์มรดกของจำเลยหลังจากจำเลยเสียชีวิตแล้ว แต่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินแปลงดังกล่าวพร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินรวมถึงบ้านเลขที่ 7/1 ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องด้วย จึงเป็นการนำยึดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งตาม ป. มาตรา 1734 เจ้าหนี้กองมรดกชอบแต่จะได้รับการชำระหนี้จากทรัพย์สินในกองมรดกเท่านั้น หากข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง บ้านเลขที่ 7/1 ย่อมเป็นทรัพย์สินของผู้ร้อง โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้กองมรดกของจำเลยหามีสิทธิบังคับชำระหนี้ไม่ การที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดบ้านหลังดังกล่าวเป็นการโต้แย้งสิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาลที่ออกหมายบังคับคดีให้ปล่อยทรัพย์สินเช่นว่านั้นได้ตาม ป. มาตรา 288 ชอบที่ศาลชั้นต้นจะต้องทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องในส่วนนี้ 2. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9508/2553 ป. มาตรา 27, 271, 288, 296 วรรคสอง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของผู้ร้อง ให้เพิกถอนหมายบังคับคดีและการขายทอดตลาดที่ดินพิพาท โดยอ้างว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์กับจำเลยที่ 1 และไม่ใช่ทรัพย์มรดกของ ว.
พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ. ศ.
มาตรา 142 วรรคหนึ่งประกอบมาตรา 246 และเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ผู้ร้องมิได้ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป. มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 247 สำหรับที่ดินแปลงที่ 2 ขณะผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้ว และเมื่อคำร้องของผู้ร้องเป็นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ซึ่งผู้ร้องต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่พิพาท คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7320/2553 ข้อเท็จจริงได้ความตามรายงานการยึดทรัพย์ประกอบบัญชียึดทรัพย์ว่า โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดบ้านซึ่งปลูกสร้างบนที่ดินโฉนดเลขที่ 8418 ซึ่งจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับ ส.
เพราะก่อนที่ ว. จะถึงแก่ความตายได้ยกที่ดินพิพาทให้แก่ผู้ร้อง โดยสละการครอบครองและส่งมอบการครอบครองให้ผู้ร้องตามคำร้องของผู้ร้องมีความมุ่งหมายเพื่อได้รับผลที่จะให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปล่อยที่ดินพิพาทที่ยึดคืนให้แก่ผู้ร้อง จึงเป็นกรณีที่ต้องด้วย ป. มาตรา 288 ซึ่งบัญญัติไว้โดยเฉพาะในเรื่องร้องขัดทรัพย์ มิใช่เป็นการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขกระบวนวิธีการบังคับคดีตาม ป. มาตรา 296 วรรคสอง ประกอบมาตรา 27 แต่การที่โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทเพื่อนำออกขายทอดตลาดแล้วนำเงินมาแบ่งให้โจทก์และจำเลยทั้งสองตามส่วนนั้น เป็นวิธีการแบ่งทรัพย์สินให้เป็นไปตามคำพิพากษาที่ให้แบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาท โดยศาลกำหนดไว้ว่าหากไม่สามารถแบ่งได้ให้ประมูลราคากันระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสองถ้าตกลงกันไม่ได้ให้นำที่ดินพิพาทออกขายทอดตลาดนำเงินที่ได้แบ่งให้โจทก์ 1 ใน 3 ส่วน อันเป็นวิธีการแบ่งทรัพย์สินระหว่างผู้มีสิทธิร่วมกันตาม ป. มาตรา 1364 วรรคสอง โจทก์และจำเลยทั้งสองมิใช่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาต่อกัน จึงมิใช่การร้องขอให้บังคับคดีตาม ป. มาตรา 271 ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดอันเป็นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดตาม ป.
มาตรา ๒๘๘ ซึ่งบัญญัติไว้โดยเฉพาะในเรื่อง "ร้องขัดทรัพย์" มิใช่เป็นการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขกระบวนวิธีการบังคับคดีตาม ป.
ร้องขัดทรัพย์ นายคงศักดิ์ R 25099 เข้าร้องทุกข์เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดี เข้ายึดทรัพย์ภายในบ้านที่ไม่ใช่ของจำเลย แสดงเอกสารเป็นเจ้าของทรัพย์ พนักงานบังคับคดีแจ้งว่ายึดไปก่อน ให้ไปร้องขอต่อศาลเอง เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2550 เวลาประมาณ 9. 30 น.
มาตรา 148 ยกคำร้องเพราะไม่มีพยานมาสืบ วินิจฉัยในประเด็นแล้ว กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตาม มาตรา 148(1) เพราะตาม ป. มาตรา 288 ให้ศาลพิจารณาชี้ขาดคดีคำร้องขัดทรัพย์เหมือนคดีธรรมดา คำร้องขัดทรัพย์ของผู้ร้องจึงเป็นคำร้องซ้ำ 2. มีข้อสังเกต ตามมาตรา 148(1) เป็นข้อยกเว้นไม่เป็นฟ้องซ้ำ ในกรณีที่เป็นกระบวนพิจารณาในชั้นบังคับคดีตามคำพิพากษา แต่การร้องขัดทรัพย์ กฎหมายให้พิจารณาเหมือนคดีธรรมดา จึงไม่เข้าข้อยกเว้นดังกล่าว -PS นำเนื้อหาเรื่องนี้ มาจากหนังสือ วิแพ่งพิสดาร เล่ม 3 ของอาจารย์วิเชียร ดิเรกอุดมศักดิ์ - หากท่านมีปัญหา เกี่ยวกับคดีต้องการปรึกษาทนายความ กรุณาติดต่อน้าสิด ที่เบอร์ 091-871 3937 หรือ E-mail: นะ ครับ 24-10-58 ข่าว ปรากรมหนีผิด ผูกคอดับคาคุก / ผบ. คุกยันเอี๊ยดผูกคอตาย
พ. มาตรา 1300 และโดยเหตุที่การบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ย่อมไม่กระทบกระทั่งถึงบุริมสิทธิหรือสิทธิอื่น ๆ ซึ่งบุคคลภายนอกอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินนั้นได้ ตาม ป. วิ. มาตรา 287 โจทก์จึงไม่มีสิทธินำยึดที่ดินพิพาทเพื่อบังคับคดีอันเป็นการกระทบกระทั่งถึงสิทธิของผู้ร้องตามบทกฎหมายดังกล่าว ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขอให้ปล่อยที่ดินพิพาทที่โจทก์นำยึดได้ คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 2, 366, 906. 55 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 14.
คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๐๒๑/๒๕๖๑ สิทธิของโจทก์ในการที่จะบังคับเอาจากทรัพย์สินของจำ เลยทั้งสองเป็นผลมาจากคำ พิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาถึงที่สุด ให้จำ เลยทั้งสองร่วมกันชำ ระหนี้แก่โจทก์ ซึ่งในการบังคับเอาจากทรัพย์สินของจำ เลยทั้งสองนั้นได้มีบทบัญญัติ ป. วิ. พ. มาตรา ๒๘๘ (เดิม) บัญญัติให้บุคคลภายนอกที่อ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ถูกเจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้สามารถร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดได้ การที่ผู้ร้องซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทมาร้องขอให้ปล่อยที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทเป็นการใช้สิทธิตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ โจทก์ไม่อาจอ้างได้ว่าการกระทำ ของผู้ร้องทำ ให้เสื่อมเสียถึงสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ตาม ป. มาตรา ๘๐๖ ตามฎีกานี้ โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยทั้งสอง โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ ๓๒๑๒๑ พร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านเลขที่ ๑๗๘ เพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า เมื่อปี ๒๕๔๐ ผู้ร้องซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่พิพาทจาก อ. แต่ผู้ร้องไม่มีคุณสมบัติที่จะกู้ยืมเงินจากธนาคาร อ. ได้ จึงขอให้จำ เลยที่ ๒ ซึ่งเป็นพี่เขยและ ว. ซึ่งเป็นพี่สาวกู้ยืมเงินจากธนาคาร อ.